โพลียูเรีย ราคาเท่าไหร่?

โพลียูเรีย หรือ เพียวโพลียูเรีย เป็นสารกันซึมที่มีความแตกต่างจากสารชนิดอื่น เนื่องจาก Polyurea นั้นสามารถกันซึมได้ถึง100% ซึ่งโดยปกติแล้วสารเคลือบชนิดนี้ จะใช้สำหรับการพ่นกันซึม โดยเฉพาะการพ่นเคลือบพื้นในโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับพื้นที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ ต้องการความสะอาดสูง เช่นโรงงานผลิตอาหาร ไม่เพียงแค่นั้น โพลียูเรียยังใช้ในงานประเภทอื่นได้ดีอีกด้วยเช่น การพ่นเคลือบบนผิวคอนกรีต พ่นเคลือบบนอลูมิเนียม รวมถึง เหล็ก,ไม้ เป็นต้น แถมยังมีคุณสมบัติคือ ให้ความแข็งแรง ทนต่อการถูกกระแทกเสียดสี เมื่อมีการเคลือบพ่นแล้ว สามารถแห้งตัวได้ไวไม่ต้องรอนาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานพอสมควรหลังพ่นสารเคลือบชนิดนี้

ปัจจุบันโพลียูเรียในบ้านเรามีอยู่หลากหลายประเภท โดยแบ่งเป็น3ประเภทหลักๆดังนี้คือ

  1. RIM Polyurea เป็นสารพ่นกันซึมที่อาจจะเหมาะแก่การใช้แค่งานบางประเภท เช่น การพ่นกันชนรถโดยเป็นตัวแม่พิมพ์ แต่จะเรียกว่ากระบวนการนี้ว่า Polyurea Spray Coatings ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับการนำไปใช้เคลือบถังบำบัด หรือ ถังเก็บน้ำ เนื่องจาก RIM มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างน้อยเพียง 1-2 ปีเท่านั้น จึงเหมาะกับการพ่นเคลือบพื้นผิวธรรมดาที่ไม่ต้องการดูแลมาก
  2. Hybrid Polyurea แน่นอนว่าไฮบริดโพลียูเรีย นั้นดีกว่า RIM Polyurea อย่างแน่นอน เพราะมีส่วนผสมที่เกิดมาจาก Polyurethane และ Polyurea เป็นสารเคลือบที่มีอายุการใช้งานได้4-5ปี แต่เนื่องจากส่วนผสมนี้ทำให้ไม่สามารถทนต่อ Hydrolysis ที่เกิดขึ้นได้ จึงไม่สามารถใช้เคลือบแทงค์น้ำ หรือถึง พื้นที่น้ำขังได้ตลอดเวลา
  3. Pure Polyurea เกิดขึ้นจาก Isocyanates และ Amines โดยไม่มีการผสมสารอื่นแต่อย่างใด จึงมีความทนทานสูงกว่าสารเคลือบที่มีส่วนผสมประเภทอื่น เมื่อพ่นเคลือบแล้วสามารถแห้งตัวได้เองด้วยระบบ Auto Cure คือสามารถแห้งตัวได้แม้อุณหภูมิจะเกิดการติดลบ โดยจากการทดสอบนั้นสามารถแห้งได้ด้วยตัวเองที่อุณหภูมิ -30 องศาเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ Pure Polyurea หรือ โพลียูเรีย เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในการพ่นเคลือบกันซึมกับสิ่งต่างๆได้เกือบทุกประเภท เช่น บ่อบำบัดน้ำเสีย พื้นที่น้ำขัง รวมถึงพื้นดาดฟ้าที่มีการไหลผ่านของน้ำอยู่เป็นประจำ เพราะมีอายุการใช้งานได้ถึง30-35ปีโดยเฉลี่ย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมคุณภาพของ Pure Polyurea อีกด้วย

โดยราคาโพลียูเรียในปัจจุบัน จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ จุดที่จะใช้สารพ่นเคลือบ อาจจะมีราคาเริ่มต้น 1,000-2,000 บาท ต่อตารางเมตร โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การตั้งราคาจากผู้ให้บริการ ความยากของการทำงาน ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการกำหนดขั้นต่ำตารางเมตร เพื่อวางแผนการทำงานก่อนไปหน้างานจริง ซึ่งถ้าหากคุณต้องการใช้บริการ ควรวางแผนการทำงานทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ

โพลียูเรีย มีความสำคัญอย่างไร

โพลียูเรีย คือสารเคลือบผิวใช้ในการเคลือบพื้นหรือสิ่งต่างๆ  ซึ่งก่อนที่จะเป็นสารเคลือบได้นั้น ต้องใช้ปฏิกิริยาระหว่างไอโอไซยาเนตและเรซิน Polyurea เป็นสารเคลือบผิวที่นิยมใช้ในแวดวงอุตสาหกรรม ใช้เคลือบเพื่อป้องกันการกัดกร่อน รวมถึงสารเคมีที่เป็นอันตราย ทั้งยังช่วยเรื่องการทนความร้อน นิยมใช้เนื่องจากแห้งตัวเร็ว มีความยืดหยุ่นสูงพอสมควร ซึ่งจริงๆแล้ว โพลียูเรีย สามารถใช้ได้กับทุกสภาพแวดล้อมเลยก็ว่าได้

ปัจจุบันโพลียูเรีย มีความสำคัญอย่างมาก เป็นสารเคลือบผิวทางเลือก ที่บริษัทผู้คนต่างเลือกใช้ เนื่องจากเป็นสารเคลือบที่มีข้อจำกัดค่อนข้างน้อย สามารถใช้ได้กับทุกพื้นที่ ทุกธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร การเคลือบป้องกันโครงสร้าง รวมไปถึง สะพาน และ อ่างเก็บน้ำ  ปกติแล้ว โพลียูเรีย ใช้ในการเคลือบพื้นผิว เพื่อกันซึม หรือ ป้องกันการกัดกร่อน ที่อาจเกิดขึ้นได้ในพื้นที่พิเศษ รวมถึงใช้เคลือบเพื่อความสะอาด เช่นอุตสาหกรรมยา ที่ต้องการความปลอดภัยสูงพอสมควร

จุดเด่นของโพลียูเรีย มีความยืดหยุ่นสูง สามารถทนได้ทุกสภาพอากาศ ป้องกันน้ำได้ดี ช่วยเรื่องการกัดกร่อนจากของเหลวที่เป็นน้ำ รวมถึงสารเคมีในแต่ละวัน ทั้งยังทนต่อรอยขีดข่วน ทำให้พื้นผิวที่ถูกเคลือบ มีสภาพที่ใหม่เสมอ แถมยังทำความสะอาดง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก สิ่งที่พิเศษกว่านั้น โพลียูเรียยังสามารถพ่นเคลือบได้กับ โลหะ คอนกรีต พลาสติก และ ไม้ แถมยังไม่ทำให้เกิดเป็นพิษ หากใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และ ยา

การใช้งานโพลียูเรีย มีขั้นตอนการใช้งานดังนี้

  • เตรียมพื้นผิวที่จะใช้ในการพ่นเคลือบ ให้ปราศจากฝุ่น หรือสิ่งรบกวน
  • ต้องตรวจสอบความชื้น ให้แน่ใจว่าแห้งสนิท เพื่อป้องกันปัญหาจากความชื้นภายหลัง
  • ผสมส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน ผสมโพลียูเรีย รวมทั้งไอโซไซยาเนตและเรซินตามที่กำหนด
  • ทำการเคลือบโดย ทา/พ่น เลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับพื้นที่ รวมถึงควรจะอยู่ในสภาพอากาศที่มีการถ่ายเท
  • จากนั้นรอจนแห้ง เกิดการเซ็ตตัว โดยปกติแล้วใช้ระยะเวลาไม่นาน
  • ตรวจสอบด้วยตัวเองโดยง่าย เพียงเช็คความเรียบเนียน รวมถึงฟองอากาศ หลังจากเคลือบเสร็จสิ้น
  • หากเคลือบในพื้นที่ ที่มีการใช้งานอย่างรุนแรง ควรทำการบำรุงรักษา อย่างเป็นประจำ เพื่อประสิทธิภาพของชิ้นงาน

แม้จะมีข้อดีอย่างมากมาย ก็ต้องมีข้อเสียด้วยเช่นกัน

  • มีต้นทุนที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุเคลือบประเภทอื่นๆ แต่ก็ด้วยคุณภาพที่ได้รับอีกเช่นกัน
  • การเคลือบด้วยสาร โพลียูเรีย อาจต้องใช้ความสามารถ หรือ ทักษะพอสมควร เพราะมีส่วนในขั้นตอนการผสม
  • ไวต่อความชื้น หากพื้นผิวมีความชื้นก่อนทำการเคลือบ อาจะทำให้ชิ้นงานที่เคลือบเกิดความเสียหาย หรือ ไม่สมบูรณ์แบบตามที่ต้องการ
  • แม้จะไม่เป็นอันตราย แต่ในขั้นตอนเคลือบ บางครั้งโพลียูเรียอาจปล่อยสารบางอย่างที่เป็นพิษออกมาได้ จึงควรทำในพื้นที่ ที่มีอากาศถ่ายเท

Polyurea คืออะไร

โพลิยูเรีย (Polyurea) เป็นวัสดุพอลิเมอร์ที่เป็นที่นิยมในการใช้งานในงานสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมต่าง ๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม เช่น ความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและน้ำมัน ความยืดหยุ่นสูง และความทนทานต่อแรงกระแทก เป็นต้น โพลิยูเรียมักจะถูกใช้เป็นการสูงสุดสำหรับงานพ่นเคลือบที่ต้องการความทนทานและการป้องกันจากสภาวะทางเคมีหรือกลางแวดล้อมต่าง ๆ อย่างเช่น การเคลือบพื้นอาคารอุตสาหกรรม, หุ้มพื้นที่บ่อเก็บน้ำ, หรือการป้องกันพื้นผิวสระว่ายน้ำและอื่น ๆ อีกมาก โพลิยูเรียมักมีการใช้งานในสถาปัตยกรรม, การสร้างเรือ, การทำภาชนะใส่ของเหลว, และงานอื่น ๆ ที่ต้องการความทนทานและความแข็งแรงในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย

ความเป็นมาของโพลิยูเรีย

การค้นพบโพลิยูเรียเกิดขึ้นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 โดย Dr. Otto Bayer และทีมงานในบริษัท IG Farben ในประเทศเยอรมนี ซึ่ง IG Farben เป็นบริษัทเคมีใหญ่ในยุคนั้นที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างสารเคมีและวัสดุพอลิเมอร์ต่าง ๆ โพลิยูเรียเกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการตั้งใจโดยเฉพาะในตอนแรก แต่เป็นผลมาจากการวิจัยในการสร้างยางใหม่ที่มีคุณสมบัติที่ดีกว่ายางธรรมดา ผลลัพธ์ของการวิจัยนี้คือการค้นพบโพลิยูเรีย ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมาก เช่น ความทนทาน, ความยืดหยุ่น, และความต้านทานต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อมที่ต่าง ๆ การค้นพบนี้นำไปสู่การพัฒนาโพลิยูเรียในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เนื่องจากคุณสมบัติของโพลิยูเรียที่มีประโยชน์มากมาย ในช่วงทศวรรษต่อมา โพลิยูเรียได้รับการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มันเหมาะสำหรับการใช้งานในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้งานในการเคลือบพื้น, การป้องกันโครงสร้าง, การใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์, การใช้งานในสถาปัตยกรรม, และหลายๆ อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการวัสดุที่มีความทนทานและคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ ดังนั้น โพลิยูเรียนั้นมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมในสมัยปัจจุบัน และยังมีการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงคุณสมบัติของวัสดุนี้ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ส่วนผสมของโพลิยูเรีย

โพลิยูเรีย (Polyurea) เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่ทำให้เป็นที่นิยมในการใช้งานในหลายอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งส่วนประกอบหลักของโพลิยูเรีย คือ อิซอซียูรีน (Isocyanate) และ อะมิน (Amine) ซึ่งมักจะผสมกันในขณะที่การทำงานเพื่อสร้างโพลิยูเรีย ความสามารถของโพลิยูเรียที่มีนิยมอย่างมากคือ ความทนทานต่อสารเคมี แรงกระแทก และการกัดกร่อน ซึ่งทำให้มันเป็นวัสดุเลิศศักดิ์สำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีเสี่ยงจากสิ่งสำคัญเหล่านี้ เช่น ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงงานผลิตอาหาร หรือสถานที่ที่มีความต้องการเพิ่มความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ โพลิยูเรียยังมีความยืดหยุ่นสูงซึ่งทำให้มันเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีการเคลื่อนไหว อีกทั้งยังสามารถใช้งานในอุณหภูมิต่าง ๆ ได้ ทำให้มันเป็นวัสดุหลากหลายที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก

ขั้นตอนการใช้งาน Polyurea

การใช้งานโพลิยูเรียนั้นมีขั้นตอนหลายขั้นตอนและความระมัดระวัง เพราะการประกอบโพลิยูเรียนั้นต้องใช้สารเคมีที่มีความพิเศษ ดังนั้นการใช้งานจึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำและมีความระมัดระวังอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการทำงาน นี่คือขั้นตอนหลักในการใช้งานโพลิยูเรีย

  • เตรียมพื้นผิว การเตรียมพื้นผิวเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เพื่อให้โพลิยูเรียเชื่อมติดกับพื้นผิวได้อย่างดีที่สุด ระยะเตรียมพื้นผิวรวมถึงการทำความสะอาด ลบรอยแตกหรือขุย และอื่น ๆ ตามความเหมาะสมของพื้นผิว
  • ผสมสารเคมี ปกติแล้ว สารเคมีสองส่วนหลักคืออิซอซียูรีนและอะมินจะถูกผสมกันในอัตราส่วนที่ถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  • การพ่น การพ่นโพลิยูเรียทำโดยใช้เครื่องพ่นพื้นผิวที่เหมาะสม โดยความหนาของโพลิยูเรียสามารถปรับได้ตามความต้องการของงาน
  • เวลาการแข่งตัว โพลิยูเรียมีระยะเวลาการแข่งตัวที่สั้นมาก เมื่อได้รับการผสมแล้ว มีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีถึงหลายนาทีก่อนที่จะแข่งตัวและแข่งตัวเป็นวัสดุที่แข็งแรง
  • เวลาใช้งาน หลังจากการแข็งตัวเสร็จสิ้น โพลิยูเรียสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้แห้งเพิ่มเติม
  • ความปลอดภัย ในขณะที่ใช้งานโพลิยูเรีย ควรใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนตัว เช่น เสื้อกันเคมี แว่นตากันสารเคมี และถุงมือ เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสารเคมีที่อาจเป็นอันตราย

นิยมใช้งานกับอะไร

การเคลือบพื้น โพลิยูเรียมักถูกใช้เป็นเคลือบป้องกันสำหรับพื้นผิวต่าง ๆ เช่น พื้นสำหรับโกดังสินค้า, โรงงาน, หรือที่จอดรถ เนื่องจากมีความทนทานต่อการกัดกร่อน, สารเคมี, และแรงกระแทก การป้องกันอุปกรณ์และโครงสร้าง โพลิยูเรียนิยมใช้เป็นเคลือบป้องกันสำหรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเช่น ท่อทางการขนส่งน้ำ, โครงสร้างเหล็ก, และส่วนอื่น ๆ ที่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย อุตสาหกรรมการสร้างเรือ โพลิยูเรียมีความยืดหยุ่นและความทนทานต่อทะเลและสารเคมีที่ใช้ในการผลิตเรือ ทำให้มันเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเรือ อุตสาหกรรมการสร้างรถ โพลิยูเรียนั้นใช้เป็นเคลือบป้องกันที่เหมาะสำหรับชิ้นส่วนภายนอกของรถ เช่น เส้นใยแข็งแรง, แผ่นชน, หรือโครงสร้างต่าง ๆ เพื่อป้องกันการสึกหรอและความเสียหายจากสภาวะทางสภาพอากาศและการใช้งานที่หนัก การใช้งานในสถาปัตยกรรม โพลิยูเรียมีความยืดหยุ่นและความทนทานต่อสภาพอากาศที่เหมาะสำหรับการใช้งานในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรม เช่น เครื่องปรับอากาศบนหลังคา, ผนังและพื้นผิวภายนอกของอาคาร, หรือสร้างสรรค์องค์ประกอบสำคัญของสถาปัตยกรรมโมเดิร์น โพลิยูเรียมีการใช้งานและประโยชน์หลากหลายในหลายอุตสาหกรรมต่าง ๆ และมีความสำคัญในการป้องกันและเสริมความคงทนของโครงสร้างและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่หนักพอสมควรครับ

การเลือกซื้อโพลิยูเรียต้องพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของคุณ นี่คือบางข้อแนะนำที่อาจช่วยให้คุณเลือกซื้อโพลิยูเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

1 ความต้องการและการใช้งาน ก่อนอื่นคุณต้องกำหนดว่าคุณจะใช้โพลิยูเรียเพื่อวัตถุประสงค์ใด และในการใช้งานได้อย่างไร เช่น คุณต้องการเคลือบพื้น, ป้องกันโครงสร้าง, หรือใช้ในอุตสาหกรรมแบบใด การระบุความต้องการและการใช้งานของคุณจะช่วยให้คุณเลือกสารเคมีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานของคุณ 2 คุณภาพของผลิตภัณฑ์ คุณควรเลือกซื้อโพลิยูเรียจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพที่ดี เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองหรือผ่านการทดสอบมาตรฐานเพื่อความมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพ

3 ความทนทานและคุณสมบัติเฉพาะ ตรวจสอบคุณสมบัติทางเคมีของผลิตภัณฑ์ เช่น ความทนทานต่อสารเคมี, ความยืดหยุ่น, และความทนทานต่อแรงกระแทก เพื่อให้แน่ใจว่ามันเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานของคุณ

4 ราคา พิจารณางบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้สำหรับการซื้อโพลิยูเรีย อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าการเลือกซื้อสารเคมีราคาถูกสามารถทำให้คุณพบกับปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพและประสิทธิภาพ ดังนั้น คุณควรพิจารณาความสมดุลระหว่างคุณภาพและราคาของผลิตภัณฑ์

5 การปฏิบัติตามข้อกำหนดและความปลอดภัย สุดท้าย ควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้โพลิยูเรีย และให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านั้นอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันอันตรายและประสิทธิภาพในการใช้งาน

โพลิยูเรีย ควรจำไว้ว่าการเลือกซื้อวัสดุนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมันส่งผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของงานที่คุณทำ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบและระมัดระวังเมื่อตัดสินใจซื้อโพลิยูเรีย โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพ, ความต้องการและการใช้งาน, ราคา, คุณสมบัติเฉพาะ, และการปฏิบัติตามข้อกำหนดและความปลอดภัย เพื่อให้คุณได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับงานของคุณ โปรดทราบว่าการเลือกซื้อวัสดุเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการผลิตและสร้างงานที่คุณสามารถได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและมั่นใจได้ว่าคุณได้ใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด อย่างไรก็ตาม หากคุณยังมีคำถามเพิ่มเติมหรือต้องการความช่วยเหลือใด ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อโพลิยูเรีย โปรดอย่าลังเลที่จะสอบถามทีมงาน เพราะเราพร้อมจะมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าทุกท่านอย่างแน่นอนครับ

Pure Polyurea คืออะไร

Pure Polyurea เป็นวัสดุสารเคมีที่มีลักษณะเป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูงและความแข็งแรงที่สูงมาก มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการสร้างโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรง และการป้องกันการรั่วไหลของของเหลว เช่น ป้องกันทางธรรมชาติ ระบบบำรุงรักษาพื้นผิว เป็นต้น มันมีการใช้งานในหลายกลุ่มอาชีพเช่น อุตสาหกรรมสร้าง วิศวกรรมทางทะเล อุตสาหกรรมยานยนต์ และอื่นๆ โดยส่วนใหญ่มักจะนำมาใช้เป็นเคลือบที่ป้องกันการกัดกร่อน การชน หรือการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นพิษ ซึ่งสามารถช่วยให้โครงสร้างมีความคงทนและทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้มากขึ้น

Pure Polyurea เป็นชนิดหนึ่งของพอลิเมอร์ที่สร้างจากการผสมของอิธิลีนดิออะมีน (isocyanate) กับสารประกอบของอะมีนอะมีน (amine) โดยมีกระบวนการที่เรียกว่า “ครอสลิงค์” (cross-linking) ซึ่งสร้างเครือข่ายของพอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างหลากหลายและเชื่อมโยงอย่างแข็งแรง ซึ่งทำให้เกิดคุณสมบัติที่น่าทึ่งเหล่านี้ขึ้นมา

  • ความยืดหยุ่นสูง  Pure Polyurea มีความยืดหยุ่นสูงที่ช่วยให้สามารถยืดหยุ่นและยึดเคลื่อนไหวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างโดยรอบ เช่น ขยายตัวหรือหดตัวของพื้นผิวโครงสร้าง
  • ความแข็งแรง มันมีความแข็งแรงสูงมาก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความคงทนและทนทานต่อการทดลองต่างๆ เช่น การรับน้ำหนัก การชน หรือแรงกระแทก
  • ความทนทานต่อสารเคมี Pure Polyurea มีความทนทานต่อสารเคมีที่สูง ซึ่งทำให้มันเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีเป็นพิษหรือสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้พื้นผิวสัมผัสกับสารเคมี
  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม มันมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น ความร้อน ความหนาว แสงแดด และสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการใช้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย

การใช้งานของ Pure Polyurea มีหลายแง่หลายรูปแบบ เช่น การใช้เป็นเคลือบเพื่อป้องกันการกัดกร่อนของโครงสร้างเหล่านี้ หรือการนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมสร้างที่ต้องการความคงทนและความแข็งแรง เช่น อุตสาหกรรมที่มีการใช้น้ำหนักหนักหรือสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ดังนั้น Pure Polyurea เป็นวัสดุที่มีความหลากหลายในการใช้งานและมีประโยชน์มากในการป้องกันและเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างต่างๆ

ส่วนประกอบของ Pure Polyurea

Pure Polyurea มีส่วนประกอบหลักที่สองคืออิธิลีนดิออะมีน (isocyanate) และอะมีน (amine) ซึ่งเป็นสารประกอบที่จำเป็นสำหรับกระบวนการครอสลิงค์ (cross-linking) เพื่อสร้างโครงสร้างของพอลิเมอร์ที่แข็งแรงและยืดหยุ่น เมื่อสองสารเหล่านี้ผสมกันแล้ว จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่า “ครอสลิงค์” ซึ่งทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างโมเลกุลของพอลิเมอร์ นอกจากนี้ยังมีสารเสริมเพิ่มเติมที่อาจเพิ่มความเร็วของกระบวนการทำงาน หรือปรับปรุงคุณสมบัติของ Pure Polyurea ตามการใช้งานและความต้องการของลูกค้าโดยตัวอย่างเช่น อิธิลีนดิออะมีน (Isocyanate) เป็นสารที่มีอะตอมไนไตร์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอะตอมอื่นๆ เช่นคาร์บอนและออกซิเจน มีหลายประเภทและคุณสมบัติต่างกันไปตามสูตรการผลิต อะมีน (Amine) เป็นกลุ่มของสารประกอบที่มีอะตอมไนไตร์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอะตอมอื่นๆ เช่นคาร์บอนและไฮโดรเจน อะมีนที่ใช้ใน Pure Polyurea มักจะมีโครงสร้างที่มีลักษณะของโพลิอะมีน สารเสริม (Additives) สารเสริมเช่นสารเป็นตัวนำ (catalysts) หรือสารที่ช่วยปรับปรุงคุณสมบัติของ Pure Polyurea เช่น ความยืดหยุ่น ความแข็งแรง หรือความต้านทานต่อสารเคมี

การใช้งาน Pure Polyurea

1 เคลือบแผ่นคอนกรีต Pure Polyurea สามารถนำมาเป็นเคลือบสำหรับแผ่นคอนกรีตเพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมี ความเป็นกรดหรือความด่าง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานต่อการชน ทำให้แผ่นคอนกรีตมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

2 ป้องกันการรั่วไหลของโครงสร้าง ในอุตสาหกรรมสร้าง Pure Polyurea สามารถนำมาใช้เป็นชั้นเคลือบเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำหรือสารเคมี ที่อาจเป็นอันตรายต่อโครงสร้างหรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นที่นิยมในการใช้ในอุตสาหกรรมที่มีการจัดเก็บน้ำ โรงงานเคมี หรือโรงงานบรรจุภัณฑ์

3 ซ่อมแซมโครงสร้าง Pure Polyurea มีความยืดหยุ่นสูงที่ช่วยให้มันเหมาะสำหรับงานซ่อมแซมโครงสร้าง โดยเฉพาะในส่วนที่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งมันสามารถใช้เป็นส่วนต่อเติมหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่มีปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

4 ท่องโครงสร้าง Pure Polyurea สามารถนำมาใช้ในการท่องโครงสร้างเพื่อป้องกันการสึกหรอและความเสียหายจากอุบัติเหตุ เช่น การชน การสัมผัสกับวัตถุที่เสียหาย หรือสภาพอากาศที่แปรปรวน

5 ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ Pure Polyurea มีการใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น การเคลือบแผ่นคอมพอสิต การป้องกันสภาพอากาศที่แปรปรวน และการป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมี ซึ่งช่วยเสริมความคงทนและความคุ้มค่าของรถยนต์

Pure Polyurea เป็นวัสดุที่ทรงพลังและหลากหลายที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานและความยืดหยุ่นสูง การนำ Pure Polyurea มาใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันและเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ด้วยประโยชน์และความหลากหลายในการใช้งาน มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวัสดุที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและบำรุงรักษาโครงสร้างในระยะยาว ดังนั้น Pure Polyurea คือเครื่องมือที่สำคัญที่จะให้ความคงทนและความปลอดภัยในโลกของการสร้างและอุตสาหกรรม” ปิดท้ายด้วยข้อคิดบนเส้นทางของความคงทนและความปลอดภัย และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Pure Polyurea ในอุตสาหกรรมและการสร้างสรรค์ หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้อ่านทุกท่านครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save